7 สัญญาณเตือนว่าอาจกำลังป่วยด้วยโรคร้าย
ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ทักจะใช้ร่างกายเปลืองมาก โดยเฉพาะคนวัยทำงาน เนื่องด้วยภาระต่าง ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้คนวัยนี้จะต้องดิ้นรนให้มากขึ้นเพื่อที่จะอยู่รอด ไม่เพียงเท่านั้นในเด็ก ๆ วัยเรียนเองก็มีแนวโน้มที่จะป่วยได้ง่ายเช่นกัน เพราะบางคนหักโหมกับการสอบ มีความเครียดสะสมตั้งแต่เด็ก รวมถึงคิดว่าตัวเองอายุยังน้อย ร่างกายแข็งแรงดี ไม่น่าจะมีโรคภัยร้ายแรงอะไร แต่สุดท้ายแล้วก็อาจจะรักษาไม่ทันเพราะรู้ตัวช้าเกินไป
ดังนั้น เรื่องของสุขภาพเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย แม้ว่าร่างกายภายนอกจะดูปกติแข็งแรงดี แต่สิ่งที่ร่างกายข้างในที่มองไม่อาจจะไม่ปกติเหมือนภายนอกก็ได้ ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง อย่าเพียงเปิดเช็กอาการจากกูเกิลเท่านั้น แต่ก็สามารถใช้กูเกิลเช็กอาการเบื้องต้นว่าคุณเข้าข่ายหรือไม่ แต่ก็ไม่จำเป็นว่าคุณต้องเป็นโรคเหล่านี้เสมอไป
อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการเหล่านี้เรื้อรัง คุณอาจกำลังเผชิญกับโรคร้ายที่แฝงตัวอยู่อย่างเงียบเชียบก็เป็นได้ โดยในวันนี้เราจะมาพูดถึง 7 สัญญาณเตือนว่าอาจกำลังป่วยด้วยโรคร้ายกันว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
ปวดหัวเรื้อรัง หน้ามืดเวียนหัวอยู่เป็นนิจ
ลองสังเกตตัวเองดูสักหน่อยว่าคุณกินพาราเซตามอลเป็นขนมอยู่หรือเปล่า หรือบางครั้งคุณก็มีอาการปวดหัวต่อเนื่องกันหลายวัน กินยาก็แล้ว พักผ่อนก็แล้วก็ยังไม่หาย คุณอาจกำลังมีภาวะแฝงของโรคหลอดเลือดสมอง หรือเนื้องอกในสมองอยู่ก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่างนิ่งนอนใจ คุณควรไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
แพ้อากาศยาวนาน เป็นไม่หายสักที
จากอาการที่ว่านี้ คุณอาจจะกำลังคิดว่าคุณแค่ภูมิคุ้มกันไม่ดีเลยป่วยบ่อย แต่ถ้าบ่อยเกินแบบไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด เอาเข้าจริงคุณอาจจะไม่ได้เป็นหวัดธรรมดาก็ได้ เพราะคุณอาจจะเป็นภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีหรือรู้ตัวให้เร็วก็อาจจะมีอาการกำเริบโดยที่ไม่รู้ตัว และพฤติกรรมสุขภาพก็ไม่ได้ระวังตัวมากพอ ซึ่งนั่นอาจนำมาซึ่งอันตรายที่ร้ายแรง
ไอคอแทบแตก นานแล้วก็ยังไม่หาย
อาการไอเรื้อรังติดต่อกันเป็นเวลานานเป็นอีกอาการที่ไม่ควรย่ามใจ เพราะคุณอาจจะไม่ได้แค่ระคายเคืองคอธรรมดา แต่อาจเป็นอาการเริ่มแรกของโรควัณโรค ปอดอักเสบ ปอดบวม มะเร็งปอด หรือไอกรนก็ได้ ซึ่งคุณควรใส่ใจให้มาก เพราะอาการที่เกี่ยวกับปอดทั้งหลายนี้ค่อนข้างเสี่ยงต่อชีวิตมากทีเดียว
ท้องไส้ปั่นป่วน ขับถ่ายมีปัญหา
นี่อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคภัยที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ ซึ่งก็มีทั้งโรคที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ถ้าหากว่าคุณมองข้าม และไม่ใส่ใจว่าการที่ท้องผูกบ่อย ๆ หรือท้องเสียบ่อย ๆ หรือมักปวดท้องอยู่บ่อย ๆ นั้นเป็นเพียงพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการกินอาหาร แต่อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณเป็นมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือโรคไต ถึงเวลานั้นคุณก็อาจรักษาตัวไม่ทัน
เหนื่อยง่ายเกินไป นิดหน่อยก็หอบแล้ว
โรคที่ผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเป็นอีกโรคที่ค่อนข้างคุกคามชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะมันทำให้รู้สึกอึดอัด และคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองป่วยก็จะไม่ได้ระวังพฤติกรรมการใช้ชีวิตเท่าที่ควร หายใจไม่สะดวก ทำอะไรก็เหนื่อย เป็นไปได้ว่าคุณอาจเป็นหอบหืด ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ โรคหัวใจ หรือมีภาวะการอุดตันของเส้นเลือด
เลือดออกผิดปกติ หรือเลือดไหลไม่หยุด
ภาวะการมีเลือดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น อาเจียนเป็นเลือด ขับถ่ายเป็นเลือด หรือเกิดจ้ำเลือดตามผิวหนังแบบไม่มีที่มาที่ไป นี่ไม่ใช่อาการปกติแล้ว แต่อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด โรคโลหิตจาง โรคตับอักเสบ หรือภาวะเลือดไม่แข็งตัว เป็นต้น ซึ่งอันตรายมาก เพราะหากขาดเลือดมากเข้าอาจเกิดอาการช็อกได้
มีปัญหาในการมองเห็น
เช่น ตาพร่า ตามัว เห็นภาพซ้อน ถือเป็นภัยเงียบที่น่ากลัวไม่แพ้อาการอื่นๆ เลย ก่อนอื่นเปลี่ยนความคิดก่อนว่านี้เป็นเพียงความคิดก่อนว่านี่อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง หรือเพราะเป็นไปตามวัย เพราะอาการเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกแค่โรคของดวงตาเท่านั้น แต่คุณอาจมีโรคบางอย่างแฝงอยู่ก็ได้ ที่พบได้ก็อย่างเช่น โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดสมอง
ฉะนั้นเพื่อความชัวร์ หมั่นไปตรวจสุขภาพประจำปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรงลงได้มาก หากป่วยก็จะได้รู้ก่อน และรักษาได้ทันก่อนสายเกินไป
แหล่งที่มา : www.sanook.com