ปฏิเสธเดทรอบสองยังไงให้ไม่หักหน้า

ปฏิเสธเดทรอบสองยังไงให้ไม่หักหน้า

เพิ่งจะเลยเดือนแห่งความรักมาหมาด ๆ เชื่อว่าสาว ๆ หนุ่ม ๆ หลายคนก็ต้องมีคนรู้ใจบ้างล่ะ แต่คนที่ยังโสดแล้วอยากมีคนรู้ใจสักคนล่ะ นั่นคือสาเหตุที่คนโสดหลายคนเข้าแอปหาคู่, ให้เพื่อนแนะนำให้, ไปสถานที่พบเจอผู้คนใหม่ ๆ ซึ่งบางส่วนก็ได้เจอคนที่คุยแล้ว “ดูเหมือน” จะคลิกกันได้ดี จึงตัดสินใจนัดเดทครั้งแรกเพื่อศึกษากันให้มากขึ้น

แต่หลังจากเจอหน้า เห็นอากัปกิริยา น้ำเสียง Mindset ต่าง ๆ ที่ตอนเจอกันครั้งแรกไม่ได้เป็นแบบนี้ ก็เกิดอาการฝันสลาย เสียงในหัวดังขึ้นมาทันทีว่า “คนนี้ไม่น่าใช่” แต่อีกฝ่ายก็เหมือจะไม่รู้ตัว ยังพยายามจะเข้ามานัดเดทรอบสองให้เสร็จสรรพ ครั้นจะโพล่งออกไปตรง ๆ ว่าไม่ชอบแล้ว ไม่มีรอบสองแล้ว ก็กลัวจะหักหน้าเกินไป วันนี้เราเลยมีทริคปฏิเสธเดทรอบสองอย่างไรให้สุภาพ เด็ดขาดแต่ยังถนอมความรู้สึกคู่เดทเท่าที่จะทำได้ เราไปดูกันเลย

บอกความจริงไปตรง ๆ อย่าพูดอ้อม อย่าโกหก

แม้จะพยายามเลี่ยงในการพูดคำนนี้มากแค่ไหน แต่ถ้าจะให้อีกฝ่ายเข้าใจตรงกัน ยังไงก็ต้องบอกความจริงอยู่ดี อย่าโกหก เพราะจะยิ่งทำให้ในเรื่องยุ่งยากขึ้น  การพูดตรงกับโพล่งออกมาแบบไม่สนใจความรู้สึกคู่เดทนั้นต่างกัน เราไม่จำเป็นต้องบอกว่า “คนแบบนี้เหรอจะมาเป็นแฟนฉัน” แต่บอกแนว ๆ ว่า “พอเจอกันแล้วรู้สึกว่าเราเหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า” ถ้าเขาไม่เข้าใจก็ค่อย ๆ อธิบายเพิ่มไปตรง ๆ

บอกคำชม / ข้อดีของอีกฝ่าย ก่อนจะบอกว่า เราไม่ไปต่อนะ

เริ่มเกริ่นด้วยคำชมถึงความดีงานในตัวเขาก่อน “เธอเป็นคนดีมากเลยนะ ไปเที่ยวกันก็รู้เลยว่าเธอมีน้ำใจมาก ๆ ดูแลเอาใจใส่ตลอด” แล้วค่อย ๆ ขมวดปมเข้าเรื่องหที่เราจะไม่ไปต่อในความสัมพันธ์นี้ แม้สุดท้ายจะต้องห่างกันไป แต่เขาจะเข้าใจและไม่จมอยู่กับคำถามว่าเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า และสามารถมูฟออนไปต่อทั้งสองฝ่ายได้แบบไม่ค้างคา

ไม่จำเป็นต้องบอกว่า “เราเป็นเพื่อนกันได้นะ” ถ้าในใจไม่ได้คิดแบบนั้น

ไม่ต้องพูดคำว่า เพื่อน, มิตรภาพ, ไม่ค่อยเจอกันใหม่ เพราะจะยิ่งเป็นการเติมไฟความหวังให้เขาเหล่านั้นแม้ตัวเราจะไม่คิดอะไรแล้ว แต่ถ้าสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายยังหวัง ยังคิด ยังพยายามเข้ามา หยอดคำหวานอยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้เธออึดอัดลำบากใจ และจะยิ่งสลัดยากกว่าเดิมด้วยเพราะดันบอกว่าเป็นเพื่อนกันไปแล้ว บอกแค่ว่า “เราขอโทษนะ แต่เราไปต่อกันไม่ได้หรอก” แล้วตัดจบซะ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง

อย่าปล่อยเบลอ หรือพูดสิ่งที่ทำให้อีกฝ่าย “มีความหวัง”

คำพูดบางคำที่ชวนให้ทีความหวังอย่าง ไว้มาที่นี่กันใหม่คราวหน้า, เดี๋ยวกลับบ้านแล้วทักแชทหานะ, ไว้วันหลังเราไปเที่ยวกัน ทั้งที่ในใจจะเทแล้วแบบนี้ไม่โอเค นอกจากจะทำร้ายความรู้สึกอีกฝ่ายแล้ว เธอก็จะตกอยู่ในสภาพจิตบ่วงคำพูดของตัวเอง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะมูฟออนหาคนใหม่ซะหน่อย คนนี้กฌมาชวนไปเดทตลอดเวลา ทำดีใส่จนน้ำท่วมปากไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งที่ไม่ได้ชอบแต่ต้นแล้ว อย่าปล่อยให้เรื่องไปถึงจุดนั้นและอย่าโลภคิดเก็บใครไว้เป็นตัวสำรองเลย

บอกคู่เดทต่อหน้า อย่าบอกทางข้อความ

ทางที่ดีที่สุด (แต่ต้องรวบรวมความกล้านอนที่สุด) คือบอกตรง ๆ ต่อหน้านี่แหละ นัดเจอกันข้างนอก ทำใจให้สงบ แล้วบอกไปตรง ๆ ว่า “ไม่อยากเจอกันอีก รู้สึกว่าไม่ใช่ ไม่อยากไปต่อในฐานะแฟน” ให้เขาเข้าใจชัดเจน อาจจะดูเป็นคนใจร้าย แต่ในระยะยาวเขาจะต้องขอบคุณเราอย่างแน่นอน

ถึงเขาจะโกรธ ร้องไห้ฟูมฟายยังไง ก็อย่าใจอ่อน

ไม่ว่าเขาจะโกรธ ร้องไห้หรือเงียบใส่ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมาก็ตาม จึงยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง ถ้าในใจรู้สึกไม่ใช่ก็ไม่จำเป็นต้องฝืนไปคบกับเขา เพราะทนรำคาญไม่ไหว ไม่มีใครขาดใจตายเพียงเพราะคนที่เจอกันไม่นานหรอก ก่อนหน้าจะเจอเราเขาก็อยู่มาได้

ถ้าเจอคนขี้ตื้อมาก ๆ “บล็อกโซเซียลห / เบอร์โทร” ไปเลยก็ได้

อย่างที่บอกว่าคนมีหลายประเภท ถ้าเราโชคร้ายไปเจอสายแข็ง สายตื้อเท่านั้นที่ครองโลก พูดปฏิเสธไปแล้วก็ไม่ฟัง ทำหูทวนลม ยังคงมาหยอดมาคุยสามเวลาหลังอาหาร เราจะมูฟออนไปเจอคนใหม่ก็กันซีน ทำตัวเป็นหมาหวงก้างทั้งทีไม่มีสิทธิ์ใด ๆ  อาจจะถึงเวลาที่จะต้อง “บล็อก” โซเซียลทุกชนิดและเบอร์โทรของเขาทิ้ง ไม่ต้องมาเจอะมาเจอกันอีก แม้แค่ในโลกออนไลน์ก็ตาม

แหล่งที่มา : sistacafe.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *